การฟ้องดคีโดยขอยกเว้นค่าธรรเนียมศาล

การขอยกเว้นค่าขึ้นศาลในคดีแพ่ง

สืบเนื่องจากการฟ้องดคีแพ่งนั้นจะต้องเสียค่าธรรมเนียมศาล ดังนี้ คือ คดีที่มีทุนทรัพย์ ได้แก่ คดีที่โจทก์เรียกร้องโดยมีคำขอปลดเปลื้องทุกข์อันอาจคำนวณเป็นราคาเงินได้ โดยจำนวนเงินหรือราคาทรัพย์ที่เรียกร้องนั้นถือเป็นทุนทรัพย์

โดยค่าขึ้นศาลในคดีที่มีทุนทรัพย์โจทก์ต้องเสียอัตราร้อยละ 2 ของจำนวนทุนทรัพย์ แต่ไม่เกิน 200,000 บาท ซึ่งทุนทรัพย์ 10 ล้านบาท

1.)สำหรับทุนทรัพย์พิพาทเกิน 50 ล้านบาท ส่วนที่เกินเสียอัตราร้อยละ 0.1

2.)ส่วนคดีทุนทรัพย์พิพาทไม่เกิน 300,000 บาท เป็นคดีมโนสาเร่ ต้องเสียค่าธรรมเนียมร้อยละ 2 แต่ไม่เกิน 1,000 บาท  

(ส่วนคดีไม่มีทุนทรัพย์ คือ คดีที่โจทก์มีคำขอปลดเปลื้องทุกข์อันไม่อาจคำนวณเป็นราคาเงินได้ โดยสำหรับค่าขึ้นศาลในคดีไม่มีทุนทรัพย์โจทก์ต้องเสียเรื่องละ 200 บาท)

หลักเกณฑ์การขอยกเว้นค่าขึ้นศาล การขอยกเว้นค่าขึ้นศาล (ค่าธรรมเนียมศาล)

ดังนี้   คู่ความที่มีฐานะยากจน ไม่มีทรัพย์สินเงินทอง ไม่สามารถเสียค่าขึ้นศาล ไม่สามารถฟ้องคดีได้ กำหมายได้เปิดช่องให้ ฟ้องคดีโดยได้รับยกเว้นค่าธรรมเนียมศาล หรือเดิมเรียกว่าการฟ้องคดีอย่างคนอนาถา โดย ต้องยื่นคำร้องต่อศาลขอให้ยกเว้นค่าธรรมเนียมศาล

          การขอยกเว้นค่าธรรมเนียมศาล ศาลจะพิจารณาถึงสถานะของผู้ขอในขณะนั้นว่า ผู้ขอมีทรัพย์สินพอที่จะเสียค่าธรรมเนียมศาลหรือไม่ หรือหากไม่ได้รับยกเว้นค่าธรรมเนียมศาลจะได้รับความเดือดร้อนเกินสมควร เมื่อพิจารณาถึงสถานะของผู้ขอนั้น

ปลักกฎหมายประมวลวิธีพิจารณาความแพ่งที่เกี่ยวข้อง

          มาตรา 149 ค่าฤชาธรรมเนียม ได้แก่ ค่าธรรมเนียมศาล ค่าสืบพยานหลักฐานนอกศาล ค่าป่วยการ ค่าพาหนะเดินทาง และค่าเช่าที่พักของพยาน ผู้เชี่ยวชาญ ล่าม และเจ้าพนักงานศาล ค่าทนายความ ค่าใช้จ่ายในการดำเนินคดี ตลอดจนค่าธรรมเนียมหรือค่าใช้จ่ายอื่น ๆ บรรดาที่กฎหมายบังคับให้ชำระ

          ภายใต้บังคับบทบัญญัติแห่งประมวลกฎหมายนี้หรือกฎหมายอื่น ว่าด้วยการยกเว้นค่าธรรมเนียมศาล ค่าธรรมเนียมศาลที่เป็นค่าขึ้นศาล ให้คู่ความผู้ยื่นคำฟ้องเป็นผู้ชำระเมื่อยื่นคำฟ้อง

          ค่าธรรมเนียมศาลนั้น ให้ชำระหรือนำมาวางศาลเป็นเงินสดหรือเช็คซึ่งธนาคารรับรอง โดยเจ้าพนักงานศาลออกใบรับให้ หรือตามวิธีการที่กำหนดไว้ในข้อกำหนดของประธานศาลฎีกา

          คำฟ้อง คำฟ้องอุทธรณ์ คำฟ้องฎีกา คำร้องสอด คำให้การ หรือคำร้องคำขออื่นซึ่งได้ยื่นต่อศาลพร้อมคำร้องขอยกเว้นค่าธรรมเนียมศาลตามมาตรา 156 ตลอดจนการดำเนินกระบวนพิจารณาในชั้นไต่สวนคำร้องดังกล่าว ไม่ต้องนำเงินค่าธรรมเนียมศาลและเงินวางศาลมาชำระ เว้นแต่ศาลจะได้ยกคำร้องนั้นเสีย

          มาตรา 155 คู่ความซึ่งไม่สามารถเสียค่าธรรมเนียมศาลอาจยื่นคำร้องต่อศาลขอให้ยกเว้นค่าธรรมเนียมศาลในการฟ้องหรือต่อสู้คดีในศาลชั้นต้นหรือชั้นอุทธรณ์หรือชั้นฎีกาตามที่บัญญัติไว้ในมาตรา 156 และมาตรา 156/1

          มาตรา 156 ผู้ใดมีความจำนงจะขอยกเว้นค่าธรรมเนียมศาลในการฟ้องหรือต่อสู้คดี ให้ยื่นคำร้องต่อศาลชั้นต้นที่จะฟ้องหรือได้ฟ้องคดีไว้นั้นพร้อมกับคำฟ้อง คำฟ้องอุทธรณ์ คำฟ้องฎีกา คำร้องสอด หรือคำให้การ แล้วแต่กรณี แต่ถ้าบุคคลนั้นตกเป็นผู้ไม่สามารถเสียค่าธรรมเนียมศาลในภายหลัง จะยื่นคำร้องในเวลาใด ๆ ก็ได้

          การยื่นคำร้องตามวรรคหนึ่ง ผู้ร้องอาจเสนอพยานหลักฐานไปพร้อมคำร้องและหากศาลเห็นสมควรไต่สวนพยานหลักฐานเพิ่มเติมก็ให้ดำเนินการไต่สวนโดยเร็วเท่าที่จำเป็น  ทั้งนี้ ศาลจะมีคำสั่งให้งดการดำเนินกระบวนพิจารณาคดีนั้นไว้ทั้งหมดหรือแต่บางส่วนเป็นการชั่วคราวจนกว่าการพิจารณาสั่งคำร้องขอยกเว้นค่าธรรมเนียมศาลจะถึงที่สุดก็ได้ตามที่ศาลเห็นสมควร

          มาตรา 156/1 เมื่อศาลพิจารณาคำร้องขอยกเว้นค่าธรรมเนียมศาลเสร็จแล้วให้ศาลมีคำสั่งโดยเร็ว โดยศาลจะมีคำสั่งอนุญาตทั้งหมดหรือแต่เฉพาะบางส่วน หรือยกคำร้องนั้นเสียก็ได้

         ห้ามมิให้ศาลอนุญาตตามคำร้องเช่นว่านั้น เว้นแต่จะเป็นที่เชื่อได้ว่าผู้ร้องไม่มีทรัพย์สินพอที่จะเสียค่าธรรมเนียมศาลหรือหากผู้ร้องไม่ได้รับยกเว้นค่าธรรมเนียมศาลจะได้รับความเดือดร้อนเกินสมควรเมื่อพิจารณาถึงสถานะของผู้ร้อง และในกรณีผู้ร้องเป็นโจทก์หรือผู้อุทธรณ์หรือฎีกา การฟ้องร้องหรืออุทธรณ์หรือฎีกานั้นมีเหตุผลอันสมควรด้วย

          เมื่อคู่ความคนใดได้รับยกเว้นค่าธรรมเนียมศาลในการฟ้องหรือต่อสู้คดีในศาลชั้นต้นแล้วยื่นคำร้องเช่นว่านั้นในชั้นอุทธรณ์หรือฎีกา แล้วแต่กรณี อีก ให้ถือว่าคู่ความนั้นยังคงไม่มีทรัพย์สินพอจะเสียค่าธรรมเนียมศาลหรือหากไม่ได้รับยกเว้นค่าธรรมเนียมศาลแล้วจะได้รับความเดือดร้อนเกินสมควรอยู่ เว้นแต่จะปรากฏต่อศาลเป็นอย่างอื่น

          ในกรณีที่ศาลมีคำสั่งอนุญาตให้ยกเว้นค่าธรรมเนียมศาลให้แต่เฉพาะบางส่วน หรือมีคำสั่งให้ยกคำร้อง ผู้ขออาจอุทธรณ์คำสั่งนั้นต่อศาลได้ภายในกำหนดเจ็ดวันนับแต่วันมีคำสั่ง คำสั่งของศาลอุทธรณ์เช่นว่านี้ให้เป็นที่สุด

อธิบายเพิ่มเติม

          ยื่นคำร้องขอยกเว้นค่าธรรมเนียมศาลต่อศาลชั้นต้นที่จะฟ้อง หรือได้ฟ้องคดีไว้นั้น พร้อมกับคำฟ้อง คำฟ้องอุทธรณ์คำฟ้องฎีกา คำร้องสอด หรือคำให้กาและฟ้องแย้ง แล้วแต่กรณี แต่ถ้าบุคคลใดไม่สามารถเสียค่าธรรมเนียมศาลในภายหลัง จะยื่นคำร้องในเวลาใด ๆ ก็ได้ ผู้ร้องอาจเสนอพยานหลักฐานไปพร้อมคำร้อง และศาลพิจารณาสั่งคำร้องได้เลย โดยไม่ต้องมีการสาบานตน แต่หากศาลเห็นสมควรไต่สวนพยานหลักฐานเพิ่มเติม ก็ให้ดำเนินการไต่สวนโดยเร็วเท่าที่จำเป็น

องค์ประกอบการขอยกเว้นค่าธรรมเนียมศาล ที่สำคัญมีดังนี้

1. การยื่นคำร้องขอยกเว้นค่าธรรมเนียมศาลผู้ร้องอาจเสนอพยานหลักฐานไปพร้อมกับคำร้องก็ได้

2. หากศาลเห็นสมควรไต่สวนพยานหลักฐานเพิ่มเติมก็ไห้ดำเนินการไต่สวน โดยเร็วเท่าที่จำเป็น

3. ทั้งนี้ศาลจะมีคำสั่งให้งดการดำเนินกระบวกการพิจารณาคดีนั้นไว้ทั้งหมด หรือ แต่บางส่วนเป็นการชั่วคราวจนกว่าการพิจารณาสั่งคำร้องขอยกเว้นค่าธรรมเนียมศาลจะถึงที่สุดก็ได้ตามที่ศาลเห็นสมควร

4. ศาลอาจมีคำสั่งอนุญาตให้ยกเว้นค่าธรรมเนียมศาลทั้งหมด หรือแต่บางส่วน หรือยกคำขอนั้นเสียก็ได้ แต่ห้ามมิให้ศาลอนุญาต เว้นแต่จะเป็นที่เชื่อได้ว่า

(องค์ประกอบข้อเท็จจริงที่ศาลอกนุญาต)

          () ผู้ร้องไม่มีทรัพย์สินพอที่จะเสียค่าธรรมเนียมศาล หรือ

          () หากผู้ร้องไม่ได้รับยกเว้นค่าธรรมเนียมศาลจะได้รับความเดือดร้อนเกินสมควร เมื่อได้พิจารณาถึงสถานะของผู้ร้อง

          () ในกรณีผู้ร้องเป็นโจทก์ หรืออุทธรณ์ หรือฎีกา การฟ้องร้อง หรืออุทธรณ์ หรือฎีกานั้นมีเหตุอันสมควรด้วย

          การขอยกเว้นค่าธรรมเนียมศาล เป็นเรื่องระหว่างผู้ขอยกเว้นค่าธรรมเนียมศาล กับศาลเท่านั้น ไม่เกี่ยวข้องกับคู่ความฝ่ายอื่นอีกทั้งหลักการยกเว้นค่าธรรมเนียมศาล มิได้พิจารณาว่าผู้ขอเป็นคนยากจนหรือไม่ หากแต่พิจารณาแต่เพียงว่าสถานะของผู้ร้องในขณะนั้นมีเงินเพียงพอจะเสียค่าธรรมเนียมศาลโดยไม่เดือดร้อนเกินสมควรหรือไม่เท่านั้น

          และในกรณีที่ผู้ร้องเป็นโจทก์ หรือผู้อุทธรณ์ หรือฎีกา การฟ้องร้อง หรืออุทธรณ์ หรือฎีกา จะต้องมีเหตุผลอันสมควรด้วย (หากไม่มีเหตุผลอันสมควร ศาลยกคำร้องได้เลย)  เมื่อศาลอนุญาตให้ได้รับยกเว้นค่าธรรมเนียมศาลในศาลใด บุคคลนั้นไม่ต้องเสียค่าธรรมเนียมศาล (ม.149 วรรคสอง และ วรรคสี่) ในการดำเนินกระบวนพิจารณาในศาลนั้น รวมถึงเงินวางศาล (เงินค่าธรรมเนียมซึ่งจะต้องใช้แก่คู่ความอีกฝ่ายหนึ่งตามคำพิพากษาหรือคำสั่ง ม.229) ในการยื่นฟ้องอุทธรณ์หรือฎีกา

           ในกรณีที่ศาลมีคำสั่งอนุญาตให้ยกเว้นค่าธรรมเนียมศาลให้แต่เฉพาะบางส่วน หรือมีคำสั่งให้ยกคำร้อง ผู้ขออาจอุทธรณ์คำสั่งนั้นต่อศาลอุทธรณ์ได้ภายใน 7 วัน นับแต่วันมีคำสั่ง ไม่ว่าจะเป็นคำสั่งในชั้นศาลชั้นต้น ชั้นศาลอุทธรณ์ ชั้นศาลฎีกา จะต้องอุทธรณ์ไปยังศาลอุทธรณ์ทั้งสิ้น และคำสั่งของศาลอุทธรณ์เช่นว่านี้ให้เป็นที่สุด

คำพิพากษาฎีกาที่ 2733/256      จำเลยยื่นคำร้องว่าจำเลยไม่มีทรัพย์สินพอที่จะเสียค่าธรรมเนียมศาล กล่าวคือ จำเลยประสบภาวะทางการเงินมีค่าใช้จ่ายและหนี้สินเป็นจำนวนมาก ไม่มีเงินมาชำระค่าธรรมเนียมศาลหรือค่าธรรมเนียมใช้แทนได้ หากจำเลยไม่ได้รับยกเว้นค่าธรรมเนียมศาลจะได้รับความเดือดร้อนเกินสมควร ขอให้ศาลไต่สวนและมีคำสั่งอนุญาตให้จำเลยดำเนินคดีโดยยกเว้นค่าฤชาธรรมเนียมศาลชั้นอุทธรณ์รวมถึงค่าธรรมเนียมใช้แทนด้วย รายละเอียดในคำร้องแสดงให้เห็นว่าข้อยกเว้นค่าฤชาธรรมเนียมชั้นอุทธรณ์ทั้งหมด ซึ่งหากศาลชั้นต้นไต่สวนคำร้องแล้วเห็นว่ามีเหตุอันควรยกเว้นค่าธรรมเนียมศาลตามที่จำเลยร้องขอแต่บางส่วนย่อมต้องระบุไว้อย่างชัดเจนว่าอนุญาตให้จำเลยได้รับการยกเว้นส่วนใดหรือเพียงใด ซึ่งทำให้จำเลยทราบได้ว่าค่าธรรมเนียมที่ได้รับยกเว้นไม่ต้องนำมาวางศาลพร้อมฟ้องอุทธรณ์นั้น เฉพาะค่าขึ้นศาลหรือค่าธรรมเนียมที่จำเลยจะต้องใช้แทนโจทก์ตาม ป.วิ.พ.มาตรา 229 การที่ศาลชั้นต้นมีคำสั่งตามถ้อยคำใน ป.วิ.พ.มาตรา 157 ว่า อนุญาตจำเลยให้ได้รับยกเว้นค่าธรรมเนียมศาลชั้นอุทธรณ์โดยไม่กล่าวเฉพาะเจาะจงอย่างหนึ่งอย่างใดเช่นนี้ ย่อมมีผลตามบทบัญญัติแห่งกฎหมายดังกล่าวว่า รวมถึงเงินที่จำเลยจะต้องวางเป็นค่าธรรมเนียมใช้แทนโจทก์ตามคำพิพากษาศาลชั้นต้นด้วย คำวินิจฉัยของศาลอุทธรณ์ภาค ๔ ที่ว่าเป็นการอนุญาตเฉพาะค่าขึ้นศาลชั้นอุทธรณ์นั้นไม่ชอบ เพราะขัดต่อเจตนารมณ์ตาม ป.วิ.พ.มาตรา 157 อย่างชัดเจน

 

          คำพิพากษาศาลฎีกาที่  2785/2523            ศาลชั้นต้นมีคำสั่งให้ยกอุทธรณ์อย่างคนอนาถาของจำเลยจำเลยอุทธรณ์  ศาลอุทธรณ์เห็นว่ามีเหตุสมควรที่จะอุทธรณ์จำเลยเป็นคนยากจนไม่มีทรัพย์สินพอจะเสียค่าธรรมเนียมและคดีในชั้นอุทธรณ์เป็นคดไม่มีทุนเสีย ค่าขึ้นศาลไม่มากจึงอนุญาตให้อุทธรณ์อย่างคนอนาถาโดยยกเว้นค่าธรรมเนียมเงินวางศาล ดังนี้โจทก์จะฎีกาว่าคดีชั้นอุทธรณ์เป็นคดีมีทุนทรัพย์  ศาลอุทธรณ์ ยกเว้นค่าธรรมเนียมเงินวางศาลโดยเห็นว่าเป็นคดีไม่มีทุนทรัพย์ไม่ถูกต้องนั้นเป็นฎีกาโต้แย้งคัดค้านเหตุผลที่ศาลอุทธรณ์หยิบยกขึ้นวินิจฉัยในการใช้ดุลพินิจยกเว้นค่าธรรมเนียมศาลตามคำสั่งอนุญาตให้จำเลยอุทธรณ์อย่างคนอนาถาซึ่ง คำสั่งเช่นว่านี้ ป.วิ.พ.ม.156 บัญญัติให้เป็นที่สุด ต้องด้วยข้อยกเว้นมิให้ฎีกาตาม ม.247,223

Visitors: 126,117