(ฎีกาปี ๖๕ ค่าส่วนต่างจากการขายทอดตลาด) คืนรถที่เช่าซื้อโดยไม่ได้ผิดสัญญาและไม่มีหนี้ค้างชำระ แม้รับสภาพหนี้ไว้ ไฟแนนซ์ก็เรียกค่าขาดราคาไม่ได้

 

          เมื่อสัญญาเช่าซื้อเลิกกันโดยผู้เช่าซื้อไม่ได้ประพฤติผิดสัญญาและไม่มีหนี้ที่ต้องรับผิดต่อผู้ให้เช่าซื้อ ผู้ให้เช่าซื้อจึงไม่มีสิทธิเรียกค่าขาดราคาค่าเช่าซื้อได้ และแม้ผู้เช่าซื้อได้ตกลงที่จะรับผิดในบรรดาหนี้ค้างชำระ ที่เกิดขึ้นจากการบอกเลิกสัญญาให้แก่ผู้ให้เช่าซื้อตามหนังสือแสดงเจตนาคืนรถก็ตาม แต่เอกสารดังกล่าวมิใช่สัญญาเช่าซื้อ เป็นเพียงหลักฐานการส่งมอบทรัพย์ที่เช่าซื้อคืนและผู้เช่าซื้อรับรองต่อผู้ให้เช่าซื้อว่า หากผู้ให้เช่าซื้อนำรถยนต์ที่เช่าซื้อออกขายได้เงินไม่เพียงพอชำระหนี้คงค้างตามสัญญา ผู้เช่าซื้อจะยอมรับผิดชดใช้ส่วนที่ขาดแก่ผู้ให้เช่าซื้อเท่านั้น หามีผลให้ผู้เช่าซื้อต้องรับผิดค่าขาดราคาไม่ เพราะกรณีเป็นการรับสภาพหนี้สินว่ามีอยู่ทั้งที่ไม่มี เนื่องจากไม่มีมูลหนี้ค่าขาดราคาต่อกันแล้ว จึงไม่มีผลบังคับแก่กันได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1203/2565

          โจทก์รับรถยนต์ที่เช่าซื้อคืนโดยไม่ปรากฏว่าจำเลยประพฤติผิดสัญญาข้อใดหรือมีหนี้ที่ต้องชำระตามสัญญาเช่าซื้อแก่โจทก์แต่อย่างใด กรณีจึงไม่อาจถือว่าจำเลยใช้สิทธิบอกเลิกสัญญาตามสัญญาเช่าซื้อ ข้อ 12 ซึ่งจำเลยต้องรับผิดชดใช้ค่าขาดราคาตามสัญญาข้อ 13 เนื่องจากการแสดงเจตนาคืนรถอันจะถือว่าเป็นการบอกเลิกสัญญาเช่าซื้อของผู้เช่าซื้อนั้น ตามสัญญาเช่าซื้อข้อ 12 ระบุว่า “ผู้เช่าซื้อจะเลิกเลิกสัญญาเช่าซื้อในเวลาใดๆ เสียก็ได้ โดยผู้เช่าซื้อจะต้องคืนและส่งมอบรถยนต์... และชำระเงินทั้งปวงที่ถึงกำหนดชำระหรือเป็นหนี้ตามสัญญานี้อยู่ในเวลานั้นทันที...” ดังนั้นต้องปรากฏว่าจำเลยยังคงมีหนี้หรือเงินที่ต้องชำระตามสัญญาเช่าซื้ออยู่ในขณะที่ส่งมอบรถคืนโจทก์แต่เมื่อจำเลยไม่มีเงินหรือหนี้ที่ต้องชำระตามสัญญาเช่าซื้อ กรณีดังกล่าวจึงถือว่าจำเลยใช้สิทธิบอกเลิกสัญญาแล้ว ด้วยการส่งมอบรถยนต์ที่เช่าซื้อคืนแก่โจทก์ ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 573 สัญญาเช่าซื้อรถยนต์ระหว่างโจทก์กับจำเลยจึงเป็นอันเลิกกันนับแต่วันที่จำเลยส่งมอบรถยนต์ที่เช่าซื้อคืนโจทก์ เมื่อสัญญาเลิกกันโดยจำเลยไม่ได้ประพฤติผิดสัญญา และไม่มีหนี้ที่ต้องรับผิดต่อโจทก์ตามมาตรา 573 ดังกล่าว โจทก์จึงไม่มีสิทธิเรียกค่าขาดราคาค่าเช่าซื้อตามสัญญาจากจำเลย และแม้จำเลยได้ตกลงที่จะรับผิดในบรรดาหนี้ค้างชำระ ที่เกิดขึ้นจากการบอกเลิกสัญญาให้แก่โจทก์ตามสัญญาเช่าซื้อ ข้อ ๑๓ ตามหนังสือแสดงเจตนาคืนรถของจำเลยเอกสารหมาย จ.๘ แผ่นที่ ๑ ก็ตาม แต่เอกสารดังกล่าวมิใช่สัญญาเช่าซื้อเป็นเพียงหลักฐานการส่งมอบทรัพย์ที่เช่าซื้อคืนและจำเลยซึ่งเป็นผู้เช่าซื้อรับรองต่อโจทก์ซึ่งเป็นผู้ให้เช่าซื้อว่า หากโจทก์นำรถยนต์ที่เช่าซื้อออกขายได้เงินไม่เพียงพอชำระหนี้คงค้างตามสัญญา จำเลยจะยอมรับผิดชดใช้ส่วนที่ขาดแก่โจทก์ ซึ่งเอกสารดังกล่าวหามีผลให้จำเลยต้องรับผิดค่าขาดราคาตามที่ระบุไว้ในเอกสารไม่ เพราะกรณีเป็นการรับสภาพหนี้สินว่ามีอยู่ทั้งที่ไม่มี เนื่องจากโจทก์และจำเลยไม่มีมูลหนี้ค่าขาดราคาต่อกันแล้ว จึงไม่มีผลบังคับแก่กันได้

 

ตามฎีกานี้ ๑. คืนรถยนต์ที่เช่าซื้อคืนโดยไม่ประพฤติผิดสัญญา ๒.ไม่มีหนี้ค้างชำระ ๓.ไม่ถือว่าเป็นการใช้สิทธิบอกเลิกสัญญาตามที่ระบุในสัญญาเช่าซื้อ ข้อที่ ๑๒ ...ที่ว่าเลิกสัญญาได้โดยส่งมอบคืนและ ชำระหนี้ค้าง... จึงไม่ต้องรับผิดค่าขาดราคาอันเป็นค่าเสียหายจากการเลิกสัญญา ๔. แม้จะทำหนังสือรับสภาพหนี้ยอมรับผิดชดใช้ส่วนที่ขาดไว้ก็ ไม่สามารถบังคับได้เพราะไม่มีหนี้ที่จะรับสภาพแก่กัน

 

 

ปรึกษาคดีคืนรถค่าส่วนต่างจากการขายทอดตลาดรถยนต์ 0864031447

 

Visitors: 126,314