คดีอาญาที่ราษฎรเป็นโจทก์ยื่นฟ้องต่อศาลเองโดยตรง จะขอศาลออกหมายค้นเพื่อพบและยึดสิ่งของมาเป็นพยานหลักฐานในการไต่สวนมูลฟ้องได้หรือไม่
มีคำพิพากษาศาลฎีกาเคยตัดสินไว้ดังนี้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 6864 / 2562
โจทก์ฎีกาโดยนำแบบพิมพ์คำร้องมาขีดฆ่าแก้ไขแล้วเขียนข้อความใหม่ว่าเป็นฎีกาโดยไม่ได้ใช้แบบพิมพ์ฎีกาและคำขอท้ายฎีกาให้ถูกต้องตามแบบที่กฎหมายกำหนดแต่ที่ศาลชั้นต้นมีคำสั่งรับฎีกาของโจทก์โดยไม่ได้สั่งให้โจทก์ดำเนินการแก้ไขให้ถูกต้องเสียก่อนแม้เป็นการไม่ชอบ แต่ดีขึ้นมาสู่การพิจารณาของศาลฎีกาแล้วเพื่ออไม่ให้เกิดความล่าช้าศาลฎีกาสมควรวินิจฉัยฎีกาของโจทก์
คดีอาญาที่ราษฎรเป็นโจทก์ฟ้องต่อศาลเองและมีการไต่สวนมูลฟ้อง หากราษฎรผู้เป็นโจทก์มีความจำเป็นต้องการค้นหาสิ่งของซึ่งอยู่ในความครอบครองของผู้อื่นเพื่อจะนำมาเป็นพยานหลักฐานประกอบการไต่สวนมูลฟ้องคดีของตน ก็ชอบที่จะยื่นคำร้องขอให้ศาลออกหมายค้นเพื่อพบและยึดสิ่งของนั้นได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 69 (1) มิใช่เป็นอำนาจของพนักงานฝ่ายปกครองหรือตำรวจโดยเฉพาะที่จะร้องขอให้ศาลออกหมาย ค้นตามมาตรา 59 วรรคสอง
สรุปได้ว่า การยื่นคำร้องขอให้ศาลออกหมายคนเพื่อพบและยึดสิ่งของนั้นได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 69 (1) มิใช่เป็นอำนาจของพนักงานฝ่ายปกครองหรือตำรวจที่จะขอให้ศาลออกหมาย ค้นตามมาตรา 59 วรรคสอง เพียงอย่างเดียว หากราษฎรผู้เป็นโจทก์มีความจำเป็นต้องการค้นหาสิ่งของซึ่งอยู่ในความครอบครองของผู้อื่นเพื่อจะนำมาเป็นพยานหลักฐานประกอบการไต่สวนมูลฟ้องคดีของตนก็ชอบที่จะขอให้ศาลออกหมายค้นได้เช่นกัน
ทนายกอบเกียรติ นบ.นบท.0864031447